เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา วันที่ 14 มืถุนายน 2568 อิหร่านใช้ขีปนาวุธและโดรนรวมกว่า 300 ลูก

แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถสกัดกั้นได้ประมาณ 99% ของขีปนาวุธและโดรนที่เข้ามา อิสราเอลมีระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายชั้น เช่น

– *ระบบแอร์โรว์* (Arrow) พัฒนาร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยไกล
– *เดวิดส์ สลิง* (David’s Sling) โครงการร่วมระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ใช้เครื่องสกัดกั้นแบบจลนศาสตร์
– *แพทริออต* (Patriot) ระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ
– *โดมเหล็ก* (Iron Dome) ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลที่เชี่ยวชาญด้านการยิงจรวดพิสัยใกล้
– *ไอรอน บีม* (Iron Beam) ระบบเลเซอร์ป้องกันภัยทางอากาศโฉมใหม่ของอิสราเอล

แต่ทั้งนี้ยังมีขีปนาวุธอิหร่าน หลุดแนวป้องกันภัยทางอากาศ จำนวนหลายลูก เข้าโจมตีใจกลางเมืองเทลอาวีฟ อิสราเอล

ในอดีต การโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอลเกิดขึ้นหลังจากที่สถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสถูกทิ้งระเบิดโจมตีเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน อิหร่านระบุว่าการโจมตีเป็นการเตือนและตอบโต้การโจมตีดังกล่าว

การตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายกว่า 100 แห่งในอิหร่าน รวมถึงฐานทัพนิวเคลียร์และฐานทหาร ทำให้เกิดความเสียหายและผู้เสียชีวิตหลายราย

โดยอิสราเอลใช้เครื่องบินขับไล่กว่า 200 ลำในการโจมตีเป้าหมายหลักคือโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตันซ์และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชั้นนำของอิหร่าน
– การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิตหลายราย

*ปฏิกิริยาจากอิหร่าน*

– อิหร่านจึงได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้ แตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถสกัดกั้นโดรนเหล่านี้ไว้ได้นอกดินแดนของอิสราเอล

ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี เตือนอิสราเอลว่าพวกเขาจะเผชิญชะตากรรมที่ขมขื่นและเจ็บปวดจากการโจมตีดังกล่าว

ผลกระทบต่อสถานการณ์ในครั้งนี้

ทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางและส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น และหลายประเทศในภูมิภาคได้สั่งปิดน่านฟ้าและยกเลิกเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย